แนะนำ 5 สถานที่ออกกำลังกาย เพื่อลดความอ้วน

แนะนำ 5 สถานที่ออกกำลังกาย เพื่อลดความอ้วน

แนะนำ 5 สถานที่ออกกำลังกาย เพื่อลดความอ้วน ตามที่ต่าง ๆ มีสถานที่ออกกำลังกายมากมาย เช่น สนามฟุตบอล ลานกีฬาตามหมู่บ้านต่าง ๆ แต่วันนี้ขอแนะนำสวนสาธารณะกันก่อนเพราะมีพื้นที่ใช้สอยให้ไปจับจองเยอะ หรือหากอยากวิ่งก็วิ่งได้ไกล ไม่น่าเบื่อจำเจอยู่แต่ที่เดิม

ดังนั้น ขอแนะนำ 5 สถานที่ออกกำลังกาย ตามมุมต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ เพื่อเป็นทางเลือกให้เพื่อน ๆ ได้ไปออกกำลังกายแบบง่าย ๆ ตามสถานที่ธรรมชาติ โดยสามารถออกกำลังกายง่าย ๆ เช่น การปั่นจักรยาน วิ่ง หรือเดิน เพื่อให้สุขภาพของเราแข็งแรง เหมาะกับคนที่กำลังหาสถานที่ลดความอ้วน เพื่อให้น้ำหนักลดลง และเอาไขมันออกจากร่ายกาย ด้วยวิธีออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ

ข้อดีของการออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ

การออกกำลังกายตามสถานที่สวนสาธารณะมีข้อดีก็คือ ทำให้เพื่อน ๆ ได้พบปะผู้คนจำนวนมาก ได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ ได้ออกกำลังกายไปกับธรรมชาติอย่างแท้จริงได้ 

การออกกำลังกายตามสถานที่ธรรมชาติ จะทำให้เหงื่อออกได้ง่ายกว่าการออกกำลังกายตามฟิตเนส และเมื่อเหนื่อยก็สามารถหยุดพักมองธรรมชาติเพื่อพักผ่อนร่างกายและสายตาได้อีกด้วย

1. สวนลุมพินี

หลาย ๆ คนอาจเรียกว่าสวนลุม สวนลุมพินีเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย มีเนื้อที่มากถึง 360 ไร่ สวนลุมพินีมีบึงน้ำ ลานปั่นจักรยาน ลานวิ่ง เนื้อที่มากมายทำให้เราสามารถออกกำลังกายได้อย่างไม่อึดอัด

การเดินทางมาสวนลุมพินี สามารถขึ้นรถไฟฟ้า BTS เพื่อลงสถานีศาลาแดง หรือเลือกเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แล้วลงสถานีสีลม ก็ได้

2. อุทยานเบญจสิริ

อุทยานเบญจสิริ เป็นสวนสาธารณะขนาดไม่ใหญ่มาก มีเนื้อที่ 29 ไร่ เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะ อุทยานเบญจสิริตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท สามารถเดินทางมาได้ง่าย ๆ

โดยขึ้นรถไฟฟ้า BTS แล้วลงสถานีพร้อมพงษ์ อุทยานเบญจสิริมีสนามเด็กเล่น เหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ สามารถพาลูกมานั่งเล่นมองธรรมชาติได้ มีสนามบาสเกตบอล ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม น่าสนใจใช่ไหมละ ลองมาออกกำลังกายที่นี่กันดูสักครั้งสิ

3. สวนเบญจกิติ

สวนเบญจกิติ มีขนาดใหญ่มากพอ ๆ กับสวนลุม สวนเบญจกิติมีเนื้อที่ถึง 130 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีตึกสูงหลาย ๆ ตึก หากใครชอบถ่ายรูปเมืองที่มีตึกเยอะ ๆ ลองมาที่สวนเบญจกิติกันได้ การออกกำลังกายเนื่องจากสวนเบญจกิติมีพื้นที่เยอะ

ทำให้เพื่อน ๆ สามรถมาปั่นจักรยาน วิ่ง หรือเดินได้สบาย ๆ ที่นี่มีปั่นจักรยานน้ำด้วยนะ การเดินทางก็สุดแสนจะง่ายดาย สามารถเดินทางมาลงที่รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

4. สวนจตุจักร

สวนจตุจักร มีเนื้อที่ประมาณ 100 ไร่ ไม่ใช่แค่สวนสาธารณะที่เพื่อน ๆ สามารถมาออกกำลังกายกันอย่างเดียวนะ ที่นี่มีการเต้นแอโรบิก เหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายแบบสนุกสนาน

และยังมีร้านขายเสื้อผ้าราคาถูก สวนจตุจักรมีของกินมากมาย มาที่เดียวสามารถได้รับครบทุกรส การเดินทางสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ก็ได้

5. สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ

สวนรถไฟ ตั้งอยู่ที่ถนนกำแพงเพชรที่ 3 ณ เขตจตุจักร สวนรถไฟมีขนาดใหญ่มาก พื้นที่รวมถึง 375 ไร่ สวนรถไฟถือว่าเป็นพื้นที่ออกกำลังกาย และพื้นที่โซนสีเขียว ซึ่งเป็นปอดของคนกรุงเทพเลยก็ว่าได้ สามารถออกกำลังกายได้ทุกประเภท เหมาะกับคนทุก ๆ วัย ที่สำคัญมีพื้นที่จอดรถเพื่อรองรับบริการด้วย

การออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ สามารถทำให้เพื่อน ๆ ได้รับประโยชน์มากมาย เช่น ได้พบเจอเพื่อนใหม่ ๆ ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และยังได้ลดไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้ไม่อ้วน ได้รับสุขภาพแข็งแรง

ไม่เสียเงินค่าฟิตเนส เป็นต้น การออกกำลังกายตามสวนสาธารณะยังมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะฉะนั้น ลองไปออกกำลังกายตามสวนสาธารณะดูสักครั้ง เผื่อจะได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ ที่พร้อมจะสุขภาพแข็งแรงไปกับเราทุกวัน

มี สถานที่ออกกำลังกาย มากมายติดกับรถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่ออกกำลังกายที่เดินทางสะดวกสบาย มีความกว้างขวาง มีต้นไม้สีเขียว มีร้านอาหารให้เพื่อน ๆ อีกด้วย ใครที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง อย่าลืมว่าต้องออกกำลังกายด้วยจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด

ไม่มีปัญหา ถ้าไม่มีฟิตเนส คลิปท่าออกกำลังกายตามสวนสาธารณะง่าย ๆ

ออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีฟิตเนสให้เข้าหรือไม่สะดวกเข้ายิม เพื่อออกกำลังกายลดน้ำหนัก และสำหรับเพื่อน ๆ หลาย ๆ คน ที่ไม่รู้จะออกกำลังกายท่าไหน วันนี้เรามี คลิปท่าออกกำลังกายตามสวนสาธารณะง่าย ๆ ที่ไม่ต้องพึ่งพาฟิตเนส สามารถออกกำลังกายได้ตามสวนสาธารณะ หรือออกกำลังกายภายในบ้านก็ได้

คลิปท่าออกกำลังกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินตามสวนสาธารณะง่าย ๆ นำเสนอโดยเทรนเนอร์สาวสวยสุดเซ็กซี่ อย่าลืมสำหรับสาว ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นการออกกำลังกายต้องค่อย ๆ ฝึกฝนท่าออกกำลังกายไปทีละท่า ไม่รีบเร่งจนเกินไป เมื่อสามารถออกกำลังกายได้ครบทุกท่าตามคลิปออกกำลังกายตามสวนสาธารณะแล้วก็สามารถเพิ่มระยะเวลา และจำนวนรอบสำหรับการออกกำลังกายตามสวนสาธารณะได้ง่าย ๆ จะรอช้ากันอยู่ทำไม เราเริ่มมาดูคลิปท่าออกกำลังกายลดความอ้วนตามสวนสาธารณะง่าย ๆ ไปพร้อม ๆ กันเถอะ

คลิปท่าออกกำลังกายตามสวนสาธารณะง่าย ๆ

La cinta no sólo sirve para correr

Posted by Motivación Gym Lifestyle 

ขอบคุณคลิปท่าออกกำลังกายง่าย ๆ ตามสวนสาธารณะจากคุณ Motivación Gym Lifestyle สมาชิกแฟนเพจจากเว็บไซต์ Facebook.com 

เมื่อสาว ๆ ได้ชม คลิปท่าออกกำลังกายตามสวนสาธารณะง่าย ๆ กันไปแล้วก็อย่าลืมมองหา สวนสาธารณะใกล้ ๆ บ้าน สถานที่ออกกำลังกาย หรือสำหรับใครที่ไม่สะดวกไปออกกำลังกายนอกบ้านก็ยังสามารถออกกำลังกายภายในบ้าน เพื่อลดความอ้วนได้ง่าย ๆ เหมือนกัน จะได้ลดความอ้วนอย่างมีสุขภาพที่ดี

มวยไทยแอโรบิก ศิลปะมวยไทยเพื่อการลดน้ำหนักดี ๆ กับ 4 เคล็ดลับที่อยากแนะนำ

มวยไทยแอโรบิก ศิลปะมวยไทยเพื่อการลดน้ำหนักดี ๆ กับ 4 เคล็ดลับที่อยากแนะนำ การชกมวยเป็นการออกกำลังกายที่ได้แรงและเผาผลาญพลังงานอย่างดี ทำให้ปัจจุบันนี้มีสาว ๆ หลายคนหันมาสนใจออกกำลังกายด้วยการชกมวยมากขึ้น

เพราะนอกจากการเผาผลาญพลังงานให้มาก ๆ เพื่อลดน้ำหนักแล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้มีกล้ามเนื้อกระชับ แข็งแรงและสวยงามตามสไตล์ผู้หญิงที่ต้องสวยด้วย สตรองด้วย

มวยไทยแอโรบิก ดีต่อสุขภาพอย่างยั่งยืน

มวยไทยแอโรบิก การออกกำลังกายลดความอ้วนแนวแอโรบิกนั้น ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วน และส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมอย่างยิ่ง เมื่อนำศิลปะมวยไทยมาปรับรวมกันเป็นการผสมผสานกันเป็นอย่างดี ลดความหนักของมวยไทยแบบดั้งเดิม และเพิ่มความหนักให้การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เกิดความสมดุลเป็นการออกกำลังกายที่มีความหนักปานกลาง

การนำศิลปะมวยไทยมาประยุกต์ให้เป็นการออกกำลังกายลดน้ำหนักของสาว ๆ นั้น มีข้อดีอย่างยิ่งโดยเฉพาะเป็นการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ที่มีผลทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบการหายใจ ตลอดจนระบบการทำงานของอวัยวะภายในที่สำคัญ ๆ

อย่างหัวใจ ปอด หลอดเลือดและกล้ามเนื้อของร่างกายมีความยืดหยุ่นดีขึ้น และยังได้มีศิลปะป้องกันตัวเป็นของแถมอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งสภาพสังคมในปัจจุบันที่ผู้หญิงห้ามอ่อนแอด้วยแล้ว การฝึกแบบนี้มีประโยชน์อย่างมาก

ฝึกการฝึกมวยไทยแอโรบิกอย่างไรจึงได้ผล

การฝึกมวยไทยแอโรบิก เพื่อการลดน้ำหนักนั้น ควรใช้เวลาแต่ละครั้งไม่น้อยกว่า 30 นาที เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้เริ่มต้นเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน ส่วนเรื่องอื่น ๆ ถ้าอยากฝึกมวยไทยให้ได้ผลเรื่องน้ำหนักควรทำดังต่อไปนี้

1. ต้องมีครูฝึกที่ดี

เพราะธรรมชาติของมวยไทย เป็นศิลปะเฉพาะทาง จำเป็นต้องได้ท่าทางที่ถูกต้อง เพราะการออกท่าทางที่ผิด นอกจากจะไม่เป็นประโยชน์อย่างที่ต้องการแล้ว ยังมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ อีกด้วย ดังนั้นครูและสถานที่ฝึกที่เหมาะสมเท่านั้นจึงทำให้คุณได้อาศัยศิลปะมวยไทยในการลดน้ำหนักและเพิ่มกล้ามเนื้ออย่างได้ผลดีและปลอดภัย

ทั้งนี้ พึงจำไว้เสมอว่า คำว่าครูฝึกที่ดีนั้น หมายถึงมีความรู้ความสามารถ แต่อาจจะไม่ต้องจ่ายแพงก็ได้ เพราะแพงไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป

2. การชกมวยไทย

การออกกำลังกายที่ต้องใช้แรง แน่นอนว่าความเหน็ดเหนื่อยจะตามมา ดังนั้น หากจะฝึกให้ได้ผลอย่างที่ต้องการ คุณต้องจริงจังในการฝึกฝน มีใจสู้ ไม่ฝึกแบบเล่น ๆ ฝึกบ้างไม่ฝึกบ้างตามอารมณ์ อย่าเพียงแต่ฝึกตามกระแสเชียร์หรือค่านิยมใด ๆ ควรวัดที่ความต้องการฝึกของคุณจริง ๆ

ตัดสินใจให้ดีว่าเป็นแนวทางการออกกำลังกายที่คุณชอบที่จะฝึกจริง ๆ ไม่เช่นนั้นทำไปได้สักพักคุณก็จะเลิกล้มความตั้งใจ และเสียเงินค่าเทรนเนอร์เปล่า ๆ ไม่ใช่ถูกนะสำหรับเทรนเนอร์ที่มีความสามารถอย่างมืออาชีพ

3. คุณติดว่าต้องสวยตลอดเวลาหรือเปล่า

การฝึกมวยไทยเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างหนัก ฝึกแล้วเหงื่อไหลไคลย้อยแน่นอน ตลอดเวลาการฝึกคุณอาจไม่มีโอกาสแต่งหน้าทาปาก สวยเป๊ะ ถ้าคุณโอเคกับสภาพความจริงที่ต้องพบ คุณก็ผ่านในการเลือกการฝึกมวยเป็นการลดน้ำหนัก แต่ถ้าอยากแต่งหน้าสวยๆ ละก็ เลือกออกกำลังกายอย่างอื่นจะดีต่อใจมากกว่า

4. ศิลปะมวยไทย

ดั้งเดิมเป็นศิลปะการต่อสู้แบบถึงตัว มักมีการบาดเจ็บ หรือฟกช้ำดำเขียวตามเนื้อตัวบ้าง แต่เมื่อนำมาประยุกต์จนเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ภายใต้การดูแลของครูผู้มีความรู้ในศิลปะแขนงนี้ โอกาสที่จะบาดเจ็บแบบจริงจังอาจไม่มี

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่เกิดความพลาดพลั้งอะไรเลย หรือบางครั้งไม่ได้ฝึกแบบมวยไทยแอโรบิก แต่ฝึกแบบมีการเตะต่อยกับอุปกรณ์ ก็อาจทำให้มีการเจ็บตัวกันบ้าง เช่น จากการกระทบ กระแทก เป็นต้น ซึ่งถ้าคุณเลือกก็ต้องยอมรับความจริงในจุดนี้ให้ได้

มวยไทยแอโรบิก นั้น เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะแม้แต่คนสูงอายุก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่อาจจะลดจังหวะการเต้นให้ช้าลง และเลือกท่าการเคลื่อนไหวที่ไม่ยากมาก ไม่ต้องใช้กำลังกล้ามเนื้อแบบหนักๆ

แต่ถ้าผู้ฝึกยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ ก็อาจเพิ่มจังหวะการเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้นอีกหน่อย เพื่อเพิ่มความแอคทีฟให้ร่างกาย จะได้สนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้น เรียกว่าดีกับทุกวัย

ว่ายน้ำลดน้ำหนัก เลือกท่าไหนให้เผาผลาญพลังงานแบบได้ผลลัพธ์เร็วที่สุด

ว่ายน้ำลดน้ำหนัก เลือกท่าไหนให้เผาผลาญพลังงานแบบได้ผลลัพธ์เร็วที่สุด การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายแบบทั้งตัว และมีดีตรงที่ข้อต่อต่าง ๆ ไม่ต้องรับน้ำหนักการกระแทก เพราะมีน้ำช่วยรองรับไว้ จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีที่จะว่ายน้ำเพื่อลดน้ำหนัก

ประโยชน์ของการว่ายน้ำหลัก ๆ ก็เพื่อสุขภาพที่ดี เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง มีความสนุกและสามารถเป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัว ปรับเพิ่มการละเล่นเข้าไปด้วยก็ได้ แต่สำหรับคนที่เจาะจงว่าจะว่ายน้ำเพื่อลดความอ้วน อาจต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เช่น ในเวลาที่มีจำกัดนั้น ควรจะเลือกท่าว่ายน้ำแบบไหนจึงจะให้ผลอย่างที่ต้องการได้มากที่สุด แต่ที่สุดแล้ว การออกกำลังกายที่ได้ผลจะต้องเริ่มต้นมาจากความชอบของผู้เล่นก่อน เพราะความชอบจะทำให้การออกกำลังกายนั้นยั่งยืนจนส่งผลอย่างที่ต้องการ

การว่ายน้ำก็ไม่ต่างจากการออกกำลังกายอื่น ๆ นั่นก็คือ จะต้องมีการวอร์มร่างกายก่อน ทั้งเรื่องของแรงและกล้ามเนื้อ ไม่ใช่กระโดดลงน้ำแล้วว่ายหนัก ๆ ไปเลย ส่วนเคล็ดลับอื่น ๆ ลองมาดูกันทำอย่างไร แบบไหนจึงจะได้ประโยชน์ในการลดน้ำหนักดีที่สุด ใช้พลังงานเท่าไหร่ในการว่ายน้ำแต่ละท่า

4 ท่าว่ายน้ำลดน้ำหนัก เลือกท่าไหนให้เผาผลาญพลังงานแบบได้ผลลัพธ์เร็วที่สุด

ท่าว่ายน้ำลดน้ำหนัก ที่นิยมว่ายกันมีอยู่ด้วยกันหลายท่า ซึ่งแต่ละท่านั้นใช้กำลังมากน้อยแตกต่างกันไป นั่นหมายถึงประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานก็ไม่เท่ากันไปด้วย ข้อมูลต่อไปนี้ เป็นข้อมูลที่น่ารู้เพื่อที่คนที่ต้องการว่ายน้ำเพื่อการลดน้ำหนักส่วนเกินจะได้เลือกได้อย่างถูกใจและเหมาะกับตัวเองที่สุด

1. ว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์

ว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ ถ้าคุณต้องการเผาผลาญพลังงานให้ได้สัก 90-100 แคลอรี่ ต่อการออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง คือทุก 10 นาที คุณสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 30 แคลอรี่ทีเดียว คุณควรเลือกท่านี้ เพราะท่าว่ายน้ำแบบฟรีสไตล์เป็นท่าว่ายน้ำที่สามารถทำให้คุณเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุดและแน่นอนจะทำอย่างนั้นได้ก็หมายถึงคุณต้องออกแรงมากที่สุดเช่นกัน ในการใช้กำลังแขนที่จะพาตัวคุณไปข้างหน้า

นอกจากนี้ ท่าฟรีสไตล์ยังช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อหลายส่วน เริ่มต้นที่กล้ามเนื้อหัวไหล่ สะโพก ท้อง มวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี คนที่รักจะว่ายน้ำท่านี้ต้องระวังในเรื่องของการหายใจ หลายคนเมื่อต้องว่ายน้ำเร็ว ๆ อาจเผลอกลั้นลมหายใจเป็นระยะ ทำบ่อย ๆ อาจติดต้องมาแก้ไขในภายหลัง สำหรับคนเพิ่งหัดใหม่ ๆ จึงควรเริ่มหัดแบบถูกวิธี มีครูสอนจะดีที่สุด เมื่อรู้วิธีและว่ายคล่องแล้ว ทีนี้จะเร่งความเร็วเท่าไหร่ก็อยู่ที่ความสามารถและการฝึกฝนของคุณเอง

2. ว่ายน้ำท่ากบ

ว่ายน้ำท่ากบ ถ้าการว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ใช้กำลังกล้ามเนื้อส่วนหัวไหล่มากเป็นพิเศษ การว่ายน้ำท่ากบจะมีลักษณะพิเศษตรงที่ต้องใช้กำลังส่วนสะโพก ต้นขา มาใช้มากขึ้น แต่ก็ไม่ทิ้งกำลังส่วนแขนไหล่ที่ใช้ควบคู่กัน ท่านี้ทำให้ปอดแข็งแรง เนื่องจากการใช้กล้ามเนื้อส่วนหน้าอก กล้ามเนื้อขาที่ต้องออกแรงถีบตัวแรง ๆ กล้ามเนื้อหัวไหล่ แขนที่ช่วยส่งแรง ท่ากบนี้ใช้กำลังแขนขาที่สอดประสานการทำงานควบคู่กัน

เป็นท่าที่เผาผลาญพลังงานได้สูงคือ ทุก 10 นาทีสามารถเผาผลาญได้ถึง 60 แคลอรี่ คือสูงกว่าท่าฟรีสไตล์ถึง 1 เท่าตัว หากใครต้องการว่ายน้ำท่านี้เพื่อการชลดน้ำหนัก อย่าลืมที่จะวอร์มร่างกายให้ดีก่อน ตลอดจนระมัดระวังอย่าให้ว่ายผิดท่า ทั้งนี้อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ โดยเฉพาะบริเวณหัวเข่าและหลัง อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ควรยกศีรษะให้พ้นน้ำตลอดเวลาที่ว่าย เพราะอาจเป็นสาเหตุให้บาดเจ็บบริเวณคอได้

3. ว่ายน้ำท่ากรรเชียง

ว่ายน้ำท่ากรรเชียง สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อส่วนหน้าท้องช่วงบนและบริเวณสะโพกท่านี้เหมาะสมอย่างมาก แต่สำหรับกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อหลัง แขน-ขา ตลอดจนกล้ามเนื้อหัวไหล่นั้น อาจเหมือน ๆ กับการว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์เพราะเป็นการวาดแขนกับน้ำเพื่อดึงตัวเองให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเหมือนกัน ผิดก็แต่เป็นท่าที่มีการเฉียงมือลง ดังนั้นการจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าให้มากและเร็วจึงต้องใช้กำลังมาก

และแน่นอน มีการเผาผลาญพลังงานได้สูงกว่าท่าฟรีสไตล์และท่ากบ คือ ทุก 10 นาทีเผาผลาญไปถึง 80 แคลอรี่ทีเดียว

4. ว่ายน้ำท่าผีเสื้อ

ว่ายน้ำท่าผีเสื้อ ท่านี้ต้องใช้กล้ามเนื้อช่วงหัวไหล่อย่างหนัก และเป็นการใช้ทั้งสองข้างพร้อม ๆ กัน กำลังที่เท่ากันอาจทำให้เคลื่อนไปข้างหน้าได้น้อย การจะไปให้รวดเร็วจึงต้องใช้กำลังหนักมากขึ้น การว่ายท่านี้สำหรับคนที่ไม่ชำนาญอาจส่งผลให้มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่และหลังได้ ดังนั้น จึงควรมีการฝึกว่ายน้ำท่านี้อย่างถูกต้อง และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้สอนอย่างเคร่งครัด ต้องมีครูเพื่อความปลอดภัย และช่วยให้ลดน้ำหนักอย่างดีมาก

ในเวลาเท่ากัน คนที่ว่ายน้ำท่าผีเสื้อจะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่ามาก คือ 10 นาที เผาผลาญพลังงานได้ถึง 150 แคลอรี่ทีเดียว หากเปรียบกับท่าฟรีสไตล์แล้ว ท่านี้เผาผลาญพลังงานได้มากกว่าถึง 5 เท่า สำหรับคนที่มีความแข็งแรงเป็นพื้นฐาน จึงมักเลือกว่ายน้ำท่านี้ เพราะได้ผลที่เร็วกว่าในเวลาเท่ากัน 

ประโยชน์ของการว่ายน้ำลดน้ำหนักไม่ว่าจะเป็นท่าอะไร อย่างน้อยมีดังต่อไปนี้

1. ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง แต่ละท่าอาจมีความต่างกันบ้าง เช่น บางท่าเน้นบริเวณช่วงหัวไหล่ บางท่ากล้ามเนื้อขา บางท่ากล้ามเนื้อหน้าท้อง
2. ช่วยเรื่องระบบทางเดินหายใจ ทำให้ปอดและหัวใจแข็งแรงขึ้น เนื่องจากการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ต้องมีการควบคุมเรื่องจังหวะการหายใจควบคู่กันไป อีกทั้งระบบหายใจที่ดี มีประสิทธิภาพทำให้การไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
3. กีฬาว่ายน้ำเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะแม้แต่คนที่มีปัญหาเรื่องหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท หรือคนที่มีปัญหาปวดหลังบ่อยๆ ปัญหาข้อเข่า สะโพกเสื่อม ก็สามารถออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำได้ เนื่องจากมีน้ำคอยรองรับไม่ให้อวัยวะที่มีปัญหาเหล่านั้นได้รับแรงกระทบกระเทือนยามออกกำลังกาย ต่างจากการออกกำลังกายแบบอื่นที่ปัญหาสุขภาพส่วนตัวทำให้ออกกำลังกายไม่ได้

การว่ายน้ำเพื่อลดน้ำหนักจึงเป็นทางเลือกที่ดี ยิ่งกับคนที่น้ำหนักส่วนเกินมากๆ ยิ่งควรเลือกแทนการออกกำลังกายลดน้ำหนักอย่างอื่นที่ร่างกายต้องรับการกระแทกตลอดเวลา และหากต้องการผลเร็ว แนะนำให้ว่ายน้ำท่าผีเสื้อเพราะเผาผลาญพลังงานได้ดีกว่าในเวลาที่เท่ากัน

สำหรับมือใหม่ที่กำลังต้องการหา สถานที่ออกกำลังกาย ก็ลองไปสถานที่ที่เราแนะนำกันได้ เพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมาย อย่างปั่นจักรยานหรือจะวิ่ง ๆ เดิน ๆ ชมวิวของสถานที่ก็เป็นการออกกำลังกายลดน้ำหนักได้อย่างง่าย ๆ  หรือจะออกกำลังกาย เล่นกีฬาใด ๆ ที่ตัวเองถนัดก็ได้เช่นกัน

อ้างอิง

https://www.wongnai.com/listings/bangkok-park

https://health.kapook.com/view125989.html