Carnivore Diet คือ สูตรการกินอาหารเพื่อลดน้ำหนักอีกรูปแบบหนึ่งที่หลายคนสนใจ เพราะเน้นกินแค่เนื้อสัตว์ ไม่ต้องกินแป้ง ผักหรือผลไม้ร่วมด้วย บทความนี้เราจึงอยากเชิญชวนทุกคนลองมาทำความรู้จักกับ Carnivore Diet กันให้มากขึ้น ว่าสูตรลดความอ้วนนี้ที่ใครว่าดี กินแต่เนื้อล้วน ๆ สูตรแบบนี้จะเหมาะกับใครบ้าง จะช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ และถ้าทำแล้วจะมีผลข้างเคียงที่อันตรายไหม ลองมาดูกัน
Carnivore Diet คือ เทคนิคการลดน้ำหนักในปัจจุบันมีมากมายหลายแบบให้ได้เลือกลองทำตามกัน อย่างการลดการกินแป้ง การกินอาหารจำกัดช่วงเวลา 16/8 แบบ IF หรือการลดน้ำหนักด้วยวิธี Ketogenic Diet ก็เป็นสูตรการลดน้ำหนักที่หลาย ๆ คนเลือกทำ ซึ่ง Carnivore Diet ที่เรานำมากล่าวถึงในวันนี้ก็เป็นอีกสูตรที่หลายคนสนใจ ทั้งยังเปรียบเป็นขั้นกว่าของสูตร Ketogenic Diet เพราะจะจำกัดประเภทของอาหารมากกว่าอีกด้วย
ซึ่ง Carnivore Diet จะเป็นการลดน้ำหนักโดยการกินแต่เนื้อสัตว์เท่านั้น งดกินแป้งและน้ำตาลอย่างเด็ดขาด รวมถึงไม่กินผัก ผลไม้ และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ อาจจะใช้เพียงแค่เกลือเล็กน้อยในการปรุงอาหารเท่านั้น Carnivore Diet จึงเป็นสูตรลดน้ำหนักที่เน้นการกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด โดยไม่เน้นกินอาหารจากพืช ผัก ผลไม้ใด ๆ ซึ่งสูตรลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ก็ไม่ใช่วิธีใหม่อย่างใด แต่เป็นสูตรกินอาหารที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้หรือโรคที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบในร่างกาย
ทั้งนี้ ผู้ที่กินตามสูตร Carnivore Diet จะยึดหลักกินแค่พออิ่มร่วมด้วย คือกินเมื่อหิว ไม่กำหนดแคลอรี่ ไม่จำกัดเวลาในการกิน ในช่วงแรก ๆ กินให้ตัวเองรู้สึกอิ่ม แล้วหลัง ๆ ร่างกายจะเริ่มปรับตัวทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น จนกินได้น้อยลงเรื่อย ๆ และทำให้ร่างกายเริ่มเผาผลาญดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงาน
Carnivore Diet ไม่ได้จำกัดให้กินวันละ 3 มื้อเหมือนปกติทั่วไป กลับกันคือจะเลือกกินเฉพาะเมื่อร่างกายรู้สึกหิว หากไม่หิวก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารก็ได้ ในบางรายจึงอาจจะกินแค่วันละ 1 มื้อ และไม่ต้องคำนวณแคลอรี่ในการกิน แต่จะกินเฉพาะเนื้อสัตว์ เลี่ยงการกินคาร์โบไฮเดรต ผัก ผลไม้ และน้ำตาล จึงค่อนข้างแตกต่างจากวิธีลดน้ำหนักแบบ Ketogenic Diet ที่สามารถเลือกกินธัญพืช ผลไม้ได้บางชนิด และเน้นการกินไขมันดีเป็นสำคัญ การลดความอ้วนแบบ Carnivore Diet อาจจะเหมาะกับคนที่ชอบกินเนื้อ ไม่เน้นกินผักหรือผลไม้
วิธีการลดน้ำหนักแบบ Carnivore Diet จะเน้นเป็นการกินเพื่อปรับสภาพร่างกายให้เลิกใช้พลังงานจากน้ำตาล รวมไปถึงการย่อยแป้งเป็นน้ำตาล โดยเปลี่ยนมาใช้พลังงานจากไขมันที่สะสมในร่างกายแทน ซึ่งเชื่อว่าวิธีนี้ช่วยทำให้ลดน้ำหนักได้จริงและเห็นผล เพราะรูปแบบการกิน Carnivore Diet มีข้อจำกัดที่จะกินเฉพาะเนื้อสัตว์ หักดิบการกินน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตสูงที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังสูงขึ้น
Carnivore Diet เป็นวิธีการเลือกกินอีกประเภทหนึ่งที่อาศัยโปรตีนและไขมันจากสัตว์เป็นหลัก ด้วยเหตุผลว่าเป็นวิธีการกินที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุดเพราะให้สารอาหารที่จำเป็นทั้งหมดที่ร่างกายต้องการ แต่ก็มีอาหารหลายอย่างที่ Carnivore Diet กินได้และกินไม่ได้ มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง
อาหารที่ Carnivore Diet กินได้ เช่น เนื้อสัตว์ทุกชนิด เครื่องในสัตว์ ไข่ มันหมู เกลือ น้ำซุปจากการต้มกระดูก น้ำมันจากสัตว์ เนยแท้ ชีส วิปครีมที่ทำจากนมวัว เครื่องเทศ เช่น ขมิ้นชัน พริกไทย เกลือ น้ำปลาแท้
อาหารที่ Carnivore Diet กินไม่ได้ เช่น ผักทุกชนิด ผลไม้ทุกชนิด พืชประเภทหัว เช่น มัน เผือก ถั่วและเมล็ดพืชต่าง ๆ ธัญพืช ข้าวทุกชนิด ขนมปัง อาหารประเภทเส้น เช่น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว สปาเกตตี้ พาสต้า เค้ก คุกกี้ ลูกอม น้ำตาล รวมถึงสารให้ความหวานต่าง ๆ น้ำเชื่อม ไซรัป น้ำผลไม้ น้ำอัดลม ชา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มที่ดื่มได้ เช่น น้ำเปล่า น้ำแร่ โซดา กาแฟดำ และนม (เพื่อการรักษาโรคอาจจะดื่มนมได้ แต่สำหรับการลดน้ำหนักไม่ควรดื่ม เพราะมีส่วนผสมของน้ำตาล)
โดยรวมแล้วการทำตาม Carnivore Diet ก็เป็นวิธีที่ดีในการปรับปรุงสุขภาพโดยรวม แต่สิ่งสำคัญบางประการที่ควรคำนึงถึงเมื่อปฏิบัติตามแนวทางเลือกนี้นั่นก็คือ ควรเลือกกินอาหารให้หลากหลาย อย่ากินอะไรซ้ำ ๆ เพียงอย่างเดียว ระวังอย่ากินอาหารไขมันสูงมากเกินไป แม้ว่าการกินเนื้อจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ถ้าหากมีไขมันมากเกินไปก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ที่สำคัญดื่มน้ำมาก ๆ ตลอดทั้งวัน สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ยังช่วยล้างสารพิษ ช่วยในระบบขับถ่าย และทำให้รู้สึกอิ่มไวขึ้นด้วย
การลดน้ำหนักด้วยวิธี Carnivore Diet คือการกินแต่เนื้อ งดกินคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล เชื่อว่าอาจมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ และทำให้น้ำหนักลดลงได้ค่อนข้างเร็ว แต่อย่าลืมว่าน้ำหนักที่หายไปอาจเป็นเพียงน้ำในร่างกายและมวลกล้ามเนื้อด้วย เนื่องจากร่างกายยังต้องการคาร์โบไฮเดรตมาเป็นพลังงาน แต่เมื่อร่างกายไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตก็จะไปดึงของเก่าที่สะสมอยู่ในกล้ามเนื้อมาเป็นพลังงานแทน หากกินอาหารไม่ถึงปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวันก็อาจส่งผลให้กล้ามเนื้อหาย ผอมแต่โทรม และอาจทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานช้าลงด้วย วิธีนี้จึงมักใช้รักษาอาการผู้ป่วยที่มีปัญหาการอักเสบของร่างกาย ทั้งยังมีการอ้างอิงผลทดสอบในกลุ่มตัวอย่างที่กินด้วยวิธีนี้แล้วพบว่า การกินแต่เนื้อสามารถช่วยรักษาอาการซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคข้อ โรคเบาหวาน และโรคอ้วนได้
แต่ผลกระทบของการกิน Carnivore Diet โดยเฉพาะหากกินในระยะยาวย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายแน่นอน เพราะว่าการกินแต่เนื้อนั้นไม่ใช่วิธีการกินอาหารที่ถูกหลักทางโภชนาการสักเท่าไหร่นัก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ คือ ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ขาดไฟเบอร์ วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น ทำให้ท้องผูกง่ายหรือระบบย่อยอาหารอาจจะมีปัญหา เสี่ยงมีระดับไขมันในเลือดสูงจากการกินเนื้อสัตว์มากเกินไป รวมถึงร่างกายอาจได้รับโซเดียมมากเกินจากพวกเนื้อสัตว์แปรรูป และเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งลำไส้ เป็นต้น
นอกจากนี้การกิน Carnivore Diet อาจไม่เหมาะสำหรับบางคน เช่น ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่มีปัญหาระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ผู้ที่ยังต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างเด็ก ผู้ตั้งครรภ์ และหญิงที่ให้นมบุตร เพราะหากกินในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าได้ผลดีต่อร่างกาย และทำให้เสี่ยงต่อโรคเรื้อรังอื่น ๆ ตามมาได้อีกด้วย รวมถึงผู้ที่สนใจในวิธีการกินแบบ Carnivore Diet ก็ด้วย ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ พิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียก่อนเริ่มทำ เพื่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพน้อยที่สุด
การลดน้ำหนักด้วยวิธี Carnivore Diet จึงถือว่าเป็นสูตรค่อนข้างทำได้ยากพอสมควร เพราะต้องระมัดระวังการกินอาหาร ในขณะที่ต้องเลือกอาหารควบคุมน้ำหนักที่ให้สารอาหารที่ครบถ้วน อีกทั้งการกินเฉพาะเนื้อสัตว์ อาจไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน หากกลับมากินคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลอีกครั้งก็อาจจะเสี่ยงกับการเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ได้ รวมถึงเป็นวิธีที่ไม่ควรทำในระยะยาวเพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน
หากต้องการลดน้ำหนักให้ได้ผลก็ควรเลือกลดน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหารแทน กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินแต่พอประมาณ หลีกเลี่ยงเมนูอาหารแคลอรี่สูง รวมถึงหมั่นออกกำลังกายเพื่อช่วยเพิ่มการเผาผลาญ น่าจะเป็นแนวทางการลดน้ำหนักที่ทำได้ง่ายและค่อนข้างเห็นผลลัพธ์กว่าสูตรอื่น ๆ